วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

cut อุบัติรัก...07





“น้องเซ อื้อ...”

และผมปิดเรียวปากบางที่น่ารำคาญด้วยอวัยวะส่วนเดียวกัน ริดรอนน้ำเสียงนุ่มที่พยายามจะเปล่งความอื้ออึงด้วยปลายลิ้นสากที่ต้องการเปิดโพรงปากแทรกเข้าหาความหวานฉ่ำ ตวัดลิ้นหยอกล้อกับลิ้นเล็กที่เอาแต่หนีอย่างไม่ประสา ทั้งร่างกายสั่นเทาที่พยายามดิ้นหนีจนผมต้องใช้ท่อนขาแกร่งตรึงไว้ กักกันอิสรภาพขืนกำลังไม่ให้มีทางต่อสู้ได้... 

“อย่าดิ้น!...อยากให้ฉันหายเกลียดแกไม่ใช่หรือไง” 

ยกเอาคำอ้อนวอนของเจ้าตัวมาเป็นข้อต่อรอง อย่างคนที่คิดว่าถือไพ่เหนือกว่า ทั้งที่จริงแล้วมันก็แค่ข้ออ้างที่อยากจะร่วมสัมพันธ์สวาทต่อกันก็เท่านั้นเอง

“ฮึก น้องเซกลัวเจ็บ” ผมกระตุกยิ้มเย็น พลางแลบลิ้นอันน่าสยดเลียแก้มกลมจนเปียกชื้น สวมบทคนหื่นกามโรคจิตเพื่อให้น้องเซของพี่สิงห์สติแตก

“ไม่รู้หรือไงว่า ครั้งที่สองจากเจ็บมันจะเปลี่ยนเป็นเสียว...”

“น้องเซไม่อยากเสียว...”

“แต่ฉันอยาก...”

“นายเสือโคร่งใจร้าย ฮึก ...”

“ฉันร้ายได้มากกว่านี้อีก ถ้าแกยังดิ้นไม่หยุดแบบนี้...”


คอยดูเถอะ  ผมจะทำให้คนใต้ร่างร้องคราง จนยอมเอ่ยถ้อยความต้องการอย่างลืมกระดากอายเลยล่ะ 


หมดเวลาพูดพร่ำทำเพลงให้ยืดเยื้อ เมื่อความต้องการในส่วนลึกมันประท้วงร้อง จัดการถกเสื้อผ้าฝ้ายขึ้นจนเปิดให้เห็นเนินอกที่โชว์เม็ดถันงามจนประจักษ์แก่สายตาลากไล้ก้านนิ้ววนรอบหลุมสะดือ ปลุกปั้วจนร่างบางบิดเร้าอย่างกระซ่านเสียว ก่อนจะเปลี่ยนฝ่ามือกร้านลงมาขย้ำจุดอ่อนไหวกลางลำตัวที่มันพองสู้มืออย่างไว แม้จะอยู่ภายใต้กางเกงผ้าวอร์ม แต่ไอ้อาการที่ดิ้นทุรนทุรายส่งเสียงครางหวานลั่นรถจนพาให้ร่างกายของผมรุ่มร้อนไปด้วย มันก็ยากเกินจะอดทนต่อไปได้ไหว


“อ้ะ...อื้อ...”


ผมจะเล้าโลมจนกว่าใครอีกคนจะพ่ายแพ้ต่อแรงราคะแทบทนไม่ไหวจนเป็นฝ่ายร้องขอผมเสียเอง 

คลึงเคล้นเล่นกับจุดอ่อนไหวไร้เดียงสาของใครอีกคนอย่างมันส์มือจนน้ำคาวข้นแตกเปียกซึมแฉะเป้า ผมก็ดึงกางเกงลงทั้งชั้นในสีขาวที่ห่อหุ้มความอ่อนไหวเอาไง้รวมถึงก้นอวบอิ่มให้พ้นทาง  จับเรียวขาขาวแยกชันเข่าออกให้กว้าง จนเผยให้เห็นร่องรักที่เต้นตุบเป็นจังหวะรอการเติมเต็มอย่างเร่าร้อน แสงไฟจากหน้ารถช่วยส่องสะท้อนร่างบางที่ฉาบไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายตัดกับผิวขาวผ่อง มันกำลังทำให้โอเซฮุนดูเซ็กซี่อย่างน่าค้นหา ยิ่งเสียงท้องฟ้าฮึมฮัมทางด้านนอกแลบแปลบปลาบยิ่งช่วยสร้างบรรยากาศให้น่ารื่นรมย์

ผมบอกแล้วไงว่าผมจะอ่อนโยนจนเร่าร้อนให้ใครอีกคนต้องหลอมละลายระทดระทวยอยู่ใต้ร่างยอมจำนนตกเป็นทาสแห่งไฟราคะ

กระตุ้นแรงสวาทด้วยการส่งปลายลิ้นละเลงกับปากถ้ำสวรรค์ พลางตวัดเลียตรงรอยจีบที่รับสู้ด้วยการผลุบเข้าผลุบออกอย่างสุดสยิว


“นายเสือ อ้ะ อื้อ น้องเซทรมาน”


“ทรมานแล้วยังไง...”


“น้องเซไม่รู้ นายเสือ ฮึก ก ก ...”


“ต้องการให้ทำแบบนั้นอีกไหม หรือจะให้ฉันหยุด...”


แกล้งผละออก ทั้งที่ตัวเองผมเองก็ร้อนรุ่ม ยิ่งได้เห็นคนใต้ร่าง ดวงตากลมปรือฉ่ำไปด้วยความต้องการ เรียวปากเผยอขึ้นสะท้อนลมหายใจจนอกบางกระเพื่อมขึ้นลง  ไร้เดียงสาหรือต้องการยั่วยวน ก็เล่นเอานิ้วชี้เข้าไปอมอยู่ในปาก ช่วงบนที่เสื้อขึ้นร่นกองอยู่เหนือเนินออกจนเห็นเม็ดถันสีทับทิมเต่งตูมชู่ช่อคัดแข็ง ช่วงล่างก็เปล่าเปลือยอ้าขาถ่างโชว์ร่องรักที่เต้นเร่าๆไปด้วยความเปียกแฉะของหยาดน้ำลายและน้ำคาวสีขุ่นไหลมารวมกันจนน่าซดเลียให้เหือดแห้ง


“น้องเซ...”
ทุรนทุรายคล้ายจะแดดิ้น บิดเร้าร่างกายด้วยโดนพิษสวาทครอบงำ น้ำเสียงเอ่ยกระท่อนกระแท่นด้วยไม่รู้จะหาจุดจบของประโยคจากที่ตรงไหน แขนเรียวขาวที่อ่อนแรงถูกดึงให้คล้องลำคอแกร่ง ก่อนที่ผมจะก้มลงไปกระซิบความสุดสยิวที่กกหูเล็กเพื่อแกล้งให้คนใต้ร่างร้องรุ่มร้อนและควรญครางมากกว่าที่เป็น


“บอกสิ ว่าต้องการฉันหรือต้องการให้หยุด”

ปาดก้านนิ้วย้ำไปมากับร่องรัก ก่อนจะทิ่มพรวดเข้าไปทักทายแล้วผละออกเพื่อรอดูอาการของร่างบางที่เด้งสะโพกรับอย่างไม่ประสา พลางเบียดความแนบชิดเข้าหาจนหยาดน้ำตาปริ่ม กอดก่ายกายผมแนนทั้งยังข่วนแผ่นหลังให้ได้รู้สึก 

“น้องเซ ฮึก...”


“น้องเซทำไม...”


สบตากลมด้วยความร้อนแรงหมายจะแผดเผาให้ดับสิ้น 


 “น้องเซ อยากให้หยุด  ตะ  แต่ น้องเซก็ต้องการนายเสือ...”


แค่เพียงเอ่ยจบถ้อยคำแผ่วเบาทว่าชัดเจนในความรู้สึก ...เพียงแค่เท่านั้นความอดทนที่รอคอยมาเนิ่นนานราวกับว่ามันได้ถึงจุดสิ้นสุดลง  ผมประคองศีรษะทรงสวยขึ้นเพื่อป้อนจูบแสนเร่าร้อนดูดดุนความหวานล้ำอย่างตะกรุมตะกราม พลางปลดกางเกงยีนส์ของตัวเองอย่างเร่งรีบก่อนอัดกระแทกแกนกายร้อนที่พร้อมทั้งลำเข้าสู่ร่องรักชื่นแฉะด้วยความรู้สึกที่สุดยากจะบรรยาย


“ชอบไหมแบบนี้...”


“อื้อ...อ้ะ”


“ชอบที่ฉันอยู่ในตัวไหม...”

“น้องเซ ฮึก เจ็บ...เลือดจะไหลอีกไหม ฮือ”

ผมส่ายหัว ก่อนซอยเอวสอบเข้าหาความนุ่มอย่างถี่ยิบเมื่อเห็นอีกคนใกล้จะปลดปล่อยเต็มที

“ทนอีกนิดนะ...”


“อ๊า...” 

เสียงหวีดร้องในช่วงสุดท้าย พร้อมกับอาการกระตุกเกร็งเป็นพักๆ ก่อนใครอีกคนจะปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มคราบ พลางซบดวงหน้าลงตรงซอกคอผมอย่างอ่อนแรงกำลัง เสียงครางเบาหวิวและเสียงหอบหายใจกระเส่ายังคงส่งผ่านถึงกัน ผมเพียงกระแทกแกนกายเข้าออกอีกสองสามครั้งก็ตามคนที่นอนหมดแรงไปติดๆ และครั้งนี้คงเป็นครั้งที่สองที่ผมเผลอปล่อยในอย่างไร้การป้องกันจากถุงยางหรือแม้แต่การหลั่งนอก รับรองได้ว่าร่างกายของโอเซฮุนรับน้ำเชื้อของผมเข้าไปอย่างเต็มๆ



ผมมองคนใต้ร่างเอามือปิดหน้าตัวเองอย่างเขินอาย ในตอนที่ผมช่วยควานคราบคาวออกจากร่องรัก ก่อนจะสวมกางของเจ้าตัวกลับไปที่เดิมให้อย่างเสร็จสรรพ


คนอะไรกลิ่นตัวเหมือนน้ำนมเด็กผสมกลิ่นแป้ง ยิ่งได้ดม กลับยิ่งชื่นใจ


กลิ่นนมบูดอะไรนั่น


ก็เรื่องโกหกทั้งเพ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น