วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

cut กาสะลอง...08

“หมีดำ หิวนมกล่องแล้วใช่ไหม”

“พี่ไม่ได้หิวนมกล่อง แต่พี่หิวนมจากเต้าต่างหาก...”


ผมผ่อนร่างของมอมแมมให้เอนตัวลงราบไปกับพื้นดินที่มีเสื้อของผมปูรอรองอยู่ ยามเมื่อเสื้อตัวน้อยของใครอีกคนได้ถูกถกขึ้นไปกองอยู่เหนือยอดอก เผยให้เห็นเม็ดทุมถันสีสดที่กำลังรอรับการสัมผัสจากริมฝีปาก ยอมรับว่าตอนนี้ผมกำลังหูอื้อตาลาย วิงเวียนคล้ายจะเป็นลม แต่ยังไม่ถึงกลับเสียสติ เพราะความยั่วยวนของเด็กตรงหน้าที่เผยออกมาอย่างไม่รู้ตัว

ไม่เสียเวลานับหนึ่งให้ถึงสิบ ความกระหายที่ไม่ได้สัมผัสเจ้าตัวมาเสียหลายวันก็นำพาริมฝีปากผมให้เขาครอบครองเม็ดทับทิมอันงดงามนั้นอย่างตะกรุมตะกรามราวกับคนที่อดข้าวมาเสียหลายมื้อ

ผมไม่รู้หรอกว่า การกินนม ในความหมายของมอมแมมมันคืออะไร แต่สำหรับผมแล้วนมของมอมแมมอร่อยที่สุดในโลก





“อ้ะ อื้อ...” ส่งเสียงครวญครางยามเรียวลิ้นตวัดดูดดุน ยิ่งรุนแรงแผ่นหลังบางกลับยิ่งแอ่นขึ้นราวกลับตอบรับสัมผัส สองมือเล็กๆขยุ้มศีรษะผมไปด้วยสัญชาตญานแห่งความเสียวซ่าน ยิ่งร่างกายบิดเร้ามันกลับยิ่งทำให้ผมได้ใจ

จนต้องส่งฝ่ามืออีกเพื่อขยี้ขย้ำยอดถันอีกข้างเพื่อไม่ให้น้อยหน้าอีกฟาก ไม่อารามสนใจใดๆว่าตอนนี้จะอยู่กลางป่าพงไพรหรือไม่ หากมีลูกกระต่ายตัวน้อยมานอนทอดกายให้เฉยชมเฉกเช่นนี้แล้วล่ะก็ ต่อให้ช้างสิบเชือกมาฉุด ผมเองก็จะสู้ไม่ถอย

ผละทิ้งทุมถันก่อนจากลากเรียวลิ้วไปทั่วผิวกายขาวที่ยังคงมีเสื้อผ้าอาภรณ์อยู่อย่างครบถ้วน อยากดูด อยากเลียตรงไหน ก็มุดเข้าไปทำรอยขบเม้มตรงนั้น แล้ววกกลับขึ้นจูบซับเรียวปากนุ่มอย่างย่ามใจและเพลิดเพลิน

“อ้ะ อื้อ...” สอดลิ้นเกลี่ยวตวัดรัดรึงพลันหยอกล้อกับลิ้นเล็กเพื่อเก็บเกี่ยวควานหาน้ำหวานในโพรงปาก สองฝ่ามือก็พลันขยี้ขย้ำสองเต้าเต่งตึงไปตามห้วงอารมณ์ ก่อนจะผละริมฝีปากออกหาอากาศ พลางดวงตาคมเข้มก็ทอดมองดวงหน้าหวานล้ำถึงจะมอมแมมไปด้วยคราบฝุ่นคราบดิน หากในเวลานี้นั้นกลับงดงามยิ่งนัก ดวงตากลมที่ปรือปรอยอย่างฉ่ำเยิ้ม เรียวปากบางที่บวมเจ่อเพราะรสจูบ ไหนจะร่างกายที่เอาแต่บดเบียดเข้าหาเพื่อร้องขอสัมผัสจากการเจอสิ่งเร้า ทุกอย่างที่กอรปกันขึ้นในเวลานี้กำลังจะทำให้ผมควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ และอยากได้มากกว่าการกินนม

ทว่ายังไม่ทันที่ริมฝีปากจะได้ครอบครองยอดถันสีงดงามอีกครั้ง ผมก็แทบจะหลุดขำพรวดออกมาเสียให้ได้ กับคำพูดของเด็กน้อยที่เอ่ยออกมาทักทายกันท่ามกลาง สงครามใต้สะดือเช่นนี้


นี่ไร้เดียงสา หรือเขากำลังแกล้งผมกันแน่


“อิ่มไหม กินนมหนู...อิ่มไหม ไอ้ผู้กอง”


 “ถ้าไม่อิ่ม จะให้พี่กินทั้งคืนเลยใช่ไหมครับ”


“อือ...ให้กิน”


“ให้กินจนกว่าหมีดำจะอิ่มเลย”



บอกตรงๆ ต่อให้ตลอดชีวิตผมก็กินนมมอมแมมไม่อิ่มหรอก


เพราะร่างกายของผมยังต้องการแคลเซียมที่มาช่วยเสริมสร้างกระดูกตรงช่วงกลางลำตัวให้แข็งแรงอยู่เสมอ...


“อ้ะ อื้อ หมีดำกินนมเก่งจัง...”


“อ้า หนูจะเอาไปเล่าให้มินซอกฟังเลยแหละ ฮือ”



เดี๋ยวนะ !!!...


วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

cut อุบัติรัก...20




มันทั้งทรมานและซ่านเสียว


“อ้ะ อื้อ เจ็บ จุ๋มเจ็บ”


แต่ก็หาได้ความปราณีจากนายคริสไม่


“อยู่เฉยๆ...”



เมื่อแรงกระแทกที่เพิ่มขึ้นมันกำลังทำให้ผมรับรู้ถึงความผิดปกติบางอย่างที่ไหลหนืดออกจากช่องทางลงสู่ผ้าปูเตียงสีหวาน ร่างกายสั่นสะท้านหนาวเหน็บไม่ต่างจากคนจับไข้ป่า เมื่อใบหน้าหล่อคมของคนนิสัยไม่ดี ก้มลงใช้เรียวลิ้นละเลงกับยอดอก ก่อนจะผละแกนกายออกเพื่อแทนที่ลิ้นสากลงตรงบริเวณนั้นอย่างกักขฬะ...



“เลือด  เลือดไหล...ฮือ”



“อื้อ ... อ๊ะ”



“ฮึก ก เจ็บ...”



“เจ็บซิดี...ยิ่งเจ็บเท่าไหร่ ฉันยิ่งสะใจ เพราะเกลียด ฉันเกลียดเธอ ได้ยินไหม จุมมายอน”


“คนไม่มีเหตุผล ฮึก จุ๋มจะโป้ง...อ้ะ”
 

“อย่ามาปัญญาอ่อน...เกลียด...อย่าทำให้ฉันเกลียดเธอไปมากกว่านี้...”



“คนใจร้าย ฮึก ก”




“เออ กูจะร้ายให้มากกว่านี้อีก...”



“พูดไม่เพราะ อื้อ อ้ะ อื้อ  คนไม่ดี...”



“คนนิสัยไม่ดีเลย ฮือ ต่อไปนี้นายคริสไม่ต้องมาให้จุ๋มเจอหน้าอีกเลย ...”


“จุ๋มเกลียดคนไม่ดี...อ้ะ”


“เกลียดฉันให้มากๆก็แล้วกัน เพราะฉันจะให้เธอท้องลูกของฉัน ยิ่งเกลียดก็ยิ่งเอา เอาจนกว่าจะป่อง...”


“อ้ะ อ๊ะ อ๊า...”


“ซี๊ดด จุ๋ม อ้า”


 
“สรรเสริญผัวอย่างฉันให้มากก็แล้วกัน จุมมายอน...”




เป็นครั้งแรกที่ผมร้องไห้เพราะความเสียใจและเจ็บปวดจากหัวใจอย่างถึงที่สุด





เจ็บเพราะ ถูกคนที่เรารู้สึกดี



ทำร้ายใจ...อย่างแสนสาหัส




โป้ง ... คนโฉด




นายคริส คนนิสัยไม่ดี






แต่ทว่าสำหรับบางคนแล้ว มันก็แค่เป็นหมากตัวหนึ่ง เพื่อให้ทุกอย่างเดินไปตามแผนที่ควรจะเป็น



รวมถึงเป็นข้ออ้างในการครอบครองร่างกายของใครอีกคน เพื่อมัดจำและตีตราจอง




ว่าคนๆนี้จะเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว...

cut อุบัติรัก...07





“น้องเซ อื้อ...”

และผมปิดเรียวปากบางที่น่ารำคาญด้วยอวัยวะส่วนเดียวกัน ริดรอนน้ำเสียงนุ่มที่พยายามจะเปล่งความอื้ออึงด้วยปลายลิ้นสากที่ต้องการเปิดโพรงปากแทรกเข้าหาความหวานฉ่ำ ตวัดลิ้นหยอกล้อกับลิ้นเล็กที่เอาแต่หนีอย่างไม่ประสา ทั้งร่างกายสั่นเทาที่พยายามดิ้นหนีจนผมต้องใช้ท่อนขาแกร่งตรึงไว้ กักกันอิสรภาพขืนกำลังไม่ให้มีทางต่อสู้ได้... 

“อย่าดิ้น!...อยากให้ฉันหายเกลียดแกไม่ใช่หรือไง” 

ยกเอาคำอ้อนวอนของเจ้าตัวมาเป็นข้อต่อรอง อย่างคนที่คิดว่าถือไพ่เหนือกว่า ทั้งที่จริงแล้วมันก็แค่ข้ออ้างที่อยากจะร่วมสัมพันธ์สวาทต่อกันก็เท่านั้นเอง

“ฮึก น้องเซกลัวเจ็บ” ผมกระตุกยิ้มเย็น พลางแลบลิ้นอันน่าสยดเลียแก้มกลมจนเปียกชื้น สวมบทคนหื่นกามโรคจิตเพื่อให้น้องเซของพี่สิงห์สติแตก

“ไม่รู้หรือไงว่า ครั้งที่สองจากเจ็บมันจะเปลี่ยนเป็นเสียว...”

“น้องเซไม่อยากเสียว...”

“แต่ฉันอยาก...”

“นายเสือโคร่งใจร้าย ฮึก ...”

“ฉันร้ายได้มากกว่านี้อีก ถ้าแกยังดิ้นไม่หยุดแบบนี้...”


คอยดูเถอะ  ผมจะทำให้คนใต้ร่างร้องคราง จนยอมเอ่ยถ้อยความต้องการอย่างลืมกระดากอายเลยล่ะ 


หมดเวลาพูดพร่ำทำเพลงให้ยืดเยื้อ เมื่อความต้องการในส่วนลึกมันประท้วงร้อง จัดการถกเสื้อผ้าฝ้ายขึ้นจนเปิดให้เห็นเนินอกที่โชว์เม็ดถันงามจนประจักษ์แก่สายตาลากไล้ก้านนิ้ววนรอบหลุมสะดือ ปลุกปั้วจนร่างบางบิดเร้าอย่างกระซ่านเสียว ก่อนจะเปลี่ยนฝ่ามือกร้านลงมาขย้ำจุดอ่อนไหวกลางลำตัวที่มันพองสู้มืออย่างไว แม้จะอยู่ภายใต้กางเกงผ้าวอร์ม แต่ไอ้อาการที่ดิ้นทุรนทุรายส่งเสียงครางหวานลั่นรถจนพาให้ร่างกายของผมรุ่มร้อนไปด้วย มันก็ยากเกินจะอดทนต่อไปได้ไหว


“อ้ะ...อื้อ...”


ผมจะเล้าโลมจนกว่าใครอีกคนจะพ่ายแพ้ต่อแรงราคะแทบทนไม่ไหวจนเป็นฝ่ายร้องขอผมเสียเอง 

คลึงเคล้นเล่นกับจุดอ่อนไหวไร้เดียงสาของใครอีกคนอย่างมันส์มือจนน้ำคาวข้นแตกเปียกซึมแฉะเป้า ผมก็ดึงกางเกงลงทั้งชั้นในสีขาวที่ห่อหุ้มความอ่อนไหวเอาไง้รวมถึงก้นอวบอิ่มให้พ้นทาง  จับเรียวขาขาวแยกชันเข่าออกให้กว้าง จนเผยให้เห็นร่องรักที่เต้นตุบเป็นจังหวะรอการเติมเต็มอย่างเร่าร้อน แสงไฟจากหน้ารถช่วยส่องสะท้อนร่างบางที่ฉาบไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายตัดกับผิวขาวผ่อง มันกำลังทำให้โอเซฮุนดูเซ็กซี่อย่างน่าค้นหา ยิ่งเสียงท้องฟ้าฮึมฮัมทางด้านนอกแลบแปลบปลาบยิ่งช่วยสร้างบรรยากาศให้น่ารื่นรมย์

ผมบอกแล้วไงว่าผมจะอ่อนโยนจนเร่าร้อนให้ใครอีกคนต้องหลอมละลายระทดระทวยอยู่ใต้ร่างยอมจำนนตกเป็นทาสแห่งไฟราคะ

กระตุ้นแรงสวาทด้วยการส่งปลายลิ้นละเลงกับปากถ้ำสวรรค์ พลางตวัดเลียตรงรอยจีบที่รับสู้ด้วยการผลุบเข้าผลุบออกอย่างสุดสยิว


“นายเสือ อ้ะ อื้อ น้องเซทรมาน”


“ทรมานแล้วยังไง...”


“น้องเซไม่รู้ นายเสือ ฮึก ก ก ...”


“ต้องการให้ทำแบบนั้นอีกไหม หรือจะให้ฉันหยุด...”


แกล้งผละออก ทั้งที่ตัวเองผมเองก็ร้อนรุ่ม ยิ่งได้เห็นคนใต้ร่าง ดวงตากลมปรือฉ่ำไปด้วยความต้องการ เรียวปากเผยอขึ้นสะท้อนลมหายใจจนอกบางกระเพื่อมขึ้นลง  ไร้เดียงสาหรือต้องการยั่วยวน ก็เล่นเอานิ้วชี้เข้าไปอมอยู่ในปาก ช่วงบนที่เสื้อขึ้นร่นกองอยู่เหนือเนินออกจนเห็นเม็ดถันสีทับทิมเต่งตูมชู่ช่อคัดแข็ง ช่วงล่างก็เปล่าเปลือยอ้าขาถ่างโชว์ร่องรักที่เต้นเร่าๆไปด้วยความเปียกแฉะของหยาดน้ำลายและน้ำคาวสีขุ่นไหลมารวมกันจนน่าซดเลียให้เหือดแห้ง


“น้องเซ...”
ทุรนทุรายคล้ายจะแดดิ้น บิดเร้าร่างกายด้วยโดนพิษสวาทครอบงำ น้ำเสียงเอ่ยกระท่อนกระแท่นด้วยไม่รู้จะหาจุดจบของประโยคจากที่ตรงไหน แขนเรียวขาวที่อ่อนแรงถูกดึงให้คล้องลำคอแกร่ง ก่อนที่ผมจะก้มลงไปกระซิบความสุดสยิวที่กกหูเล็กเพื่อแกล้งให้คนใต้ร่างร้องรุ่มร้อนและควรญครางมากกว่าที่เป็น


“บอกสิ ว่าต้องการฉันหรือต้องการให้หยุด”

ปาดก้านนิ้วย้ำไปมากับร่องรัก ก่อนจะทิ่มพรวดเข้าไปทักทายแล้วผละออกเพื่อรอดูอาการของร่างบางที่เด้งสะโพกรับอย่างไม่ประสา พลางเบียดความแนบชิดเข้าหาจนหยาดน้ำตาปริ่ม กอดก่ายกายผมแนนทั้งยังข่วนแผ่นหลังให้ได้รู้สึก 

“น้องเซ ฮึก...”


“น้องเซทำไม...”


สบตากลมด้วยความร้อนแรงหมายจะแผดเผาให้ดับสิ้น 


 “น้องเซ อยากให้หยุด  ตะ  แต่ น้องเซก็ต้องการนายเสือ...”


แค่เพียงเอ่ยจบถ้อยคำแผ่วเบาทว่าชัดเจนในความรู้สึก ...เพียงแค่เท่านั้นความอดทนที่รอคอยมาเนิ่นนานราวกับว่ามันได้ถึงจุดสิ้นสุดลง  ผมประคองศีรษะทรงสวยขึ้นเพื่อป้อนจูบแสนเร่าร้อนดูดดุนความหวานล้ำอย่างตะกรุมตะกราม พลางปลดกางเกงยีนส์ของตัวเองอย่างเร่งรีบก่อนอัดกระแทกแกนกายร้อนที่พร้อมทั้งลำเข้าสู่ร่องรักชื่นแฉะด้วยความรู้สึกที่สุดยากจะบรรยาย


“ชอบไหมแบบนี้...”


“อื้อ...อ้ะ”


“ชอบที่ฉันอยู่ในตัวไหม...”

“น้องเซ ฮึก เจ็บ...เลือดจะไหลอีกไหม ฮือ”

ผมส่ายหัว ก่อนซอยเอวสอบเข้าหาความนุ่มอย่างถี่ยิบเมื่อเห็นอีกคนใกล้จะปลดปล่อยเต็มที

“ทนอีกนิดนะ...”


“อ๊า...” 

เสียงหวีดร้องในช่วงสุดท้าย พร้อมกับอาการกระตุกเกร็งเป็นพักๆ ก่อนใครอีกคนจะปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มคราบ พลางซบดวงหน้าลงตรงซอกคอผมอย่างอ่อนแรงกำลัง เสียงครางเบาหวิวและเสียงหอบหายใจกระเส่ายังคงส่งผ่านถึงกัน ผมเพียงกระแทกแกนกายเข้าออกอีกสองสามครั้งก็ตามคนที่นอนหมดแรงไปติดๆ และครั้งนี้คงเป็นครั้งที่สองที่ผมเผลอปล่อยในอย่างไร้การป้องกันจากถุงยางหรือแม้แต่การหลั่งนอก รับรองได้ว่าร่างกายของโอเซฮุนรับน้ำเชื้อของผมเข้าไปอย่างเต็มๆ



ผมมองคนใต้ร่างเอามือปิดหน้าตัวเองอย่างเขินอาย ในตอนที่ผมช่วยควานคราบคาวออกจากร่องรัก ก่อนจะสวมกางของเจ้าตัวกลับไปที่เดิมให้อย่างเสร็จสรรพ


คนอะไรกลิ่นตัวเหมือนน้ำนมเด็กผสมกลิ่นแป้ง ยิ่งได้ดม กลับยิ่งชื่นใจ


กลิ่นนมบูดอะไรนั่น


ก็เรื่องโกหกทั้งเพ...

cut อุบัติรัก...05




ตรึงข้อมือเล็กด้วยฝ่ามือหยาบไว้ข้างหนึ่ง ก่อนมืออีกข้างจะกระชากกางเกงนอนให้หลุดลงไปอยู่ที่ข้อเท้าบาง ยิ่งดี้ดิ้นรนหาทางรอดผมกลับยิ่งสะใจ ยามนึกถึงหน้าไอ้โจอินซอง ผมกลับยิ่งอยากกระแทกกระทั้นกายใส่ดี้เพื่อเป็นการลงโทษให้หลาบจำ ไม่สนใจว่าตาหนูจะนอนอยู่ข้างๆกัน เพราะเวลานี้ผมโดนไฟราคะครอบงำอย่างยากที่จะหยุด เสือกไสแกนกายร้อนเข้าสู่ร่องรักอย่างไร้การเล้าโลมจนดี้เผลอหวีดร้องด้วยความเจ็บ


คุณสิงห์ อย่า อ้ะ อื้อ...



ทั้งประกบปากอวบอิ่มที่คุ้นเคยหวังกลืนกินเสียงเหล่านั้น พรมรสจูบแสนเร่าร้อนชอกชอนเกลียวลิ้นสากนำทางความหยาบโลน ดูดดึง รัดรึง ผ่อนคลาย แล้ววนเข้าไปสัมผัสใหม่เช่นนั้นหวังลงโทษคนที่ชอบพยศให้ผมต้องหงุดหงิดใจเป็นบ้าเป็นหลังไปเองฝ่ายเดียว  เสียงชื้นแฉะของหยาดน้ำลายที่เราสองต่างแลกลิ้นกันอย่างเร่าร้อน ลมหายใจอุ่นระทดระทวยเป่ารินรด นั้นช่วยสร้างให้อารมณ์วาบวามยิ่งคุกรุ่น หากเปรียบผมเป็นไฟ ดี้ก็คงเป็นสายที่พร้อมพัดโหมกระพือความรุ่มร้อนมันลุกโชนอย่างยากที่จะดับ 


กลิ่นกายหอมๆ กับผิวเนื้อนุ่มนิ่มของดี้กำลังทำให้ผมตะกรุมตะกราม ยิ่งสัมผัสก็ยิ่งอยากได้อีกอย่างไม่รู้จักอิ่ม ลากไล้ปลายลิ้นเชยชิมแก้มกลม ขบเม้มกัดลงไปให้พอรู้สึก จนคนใต้ร่างถึงกับครางเสียงหลงพร้อมทั้งส่งกำปั้นเล็กทุบหัวไหล่ ราวกับต้องการจะประท้วงกันเสียอย่างนั้น แต่มันช้าไปแล้วดี้ ถ้าเครื่องยนต์ผมติดเมื่อไหร่ รับรองได้ว่ามันไม่การหยุดหรือถอยหลังเป็นอันขาด กระแทกกระทั้นกายเข้าออกจนได้ยินเสียงความชื้นแฉะของน้ำคาวขุ่นที่บัดนี้มันกลายเป็นตัวหล่อลื่นการร่วมรักชั้นยอด

อ้ะ...” ปลดกระดุมเสื้อนอนน่ารักของดี้ออกด้วยฟันคม ลากไล้ลิ้นวนอยู่ตรงช่วงทุมถันเม็ดงามที่เต่งตูม ผลิบานรอรับการสัมผัส

ดี้ อื้อ ปล่อย ดี้ นะ...

จะปล่อยทำไมให้โง่ มีหน้าที่อ้าขาร้องครางก็ทำไป อย่าทำให้ฉันหงุดหงิดนะดี้

ดี้เจ็บ...

เหอะ! อย่ามารยา คิดว่าฉันพิศสวาทเธอมากหรือไง จืดชืดอย่างกับน้ำยาเย็น ที่เอาอยู่ทุกวันนี้ ก็เพื่อความสะใจเท่านั้นล่ะ จำเอาไว้...


ใครจะไปสู้คุณกระแตของคุณได้...


ราวกลับว่ามีใครมาเปิดสวิตซ์ไฟให้สว่างวาบ เพียงแค่ดี้เอ่ยถึงบุคคลที่สามในตอนที่เรากำลังหลอมรวมเป็นหนึ่ง 


มันใช่เวลาไหม...


กระแตเกี่ยวอะไรด้วย อย่าเอาคนรักฉันมาเปรียบกับคนอย่างเธอ


เพราะมันไม่เหมือนกันเลย ไม่มีวันเหมือน

งั้นก็เชิญคุณไปเอากับคนรักของคุณสิ ฮือ


คำพูดของดี้ก็เหมือนเชื้อราคะดีๆนี่เอง ยิ่งต่อต้าน ยิ่งประชด มันยิ่งทำให้ผมมีอารมณ์อย่างน่าประหลาด ยามได้เห็นดวงหน้าหวานบิดเบี้ยวไปตามแรงอารมณ์ แม้ปากจะปฏิเสธ แต่ดวงตากลมโตกลับฉ่ำเยิ้มและเชิญชวนอย่างน่าหลงใหล


ฉันจะเอากับกระแตเมื่อไหร่ตอนไหนก็ได้ไม่ใช่ธุระของเธอ...


อ้ะ อื้อ...


แต่สำหรับเมียขัดดอก   ฉันจะเอาจนกว่าเธอจะท้องเลยล่ะดี้


ฉุดร่างที่ระทดระทวยเพราะถูกราคะเข้าครอบงำ ให้ขึ้นมานั่งคร่อมทับตักผมเอาไว้แทน โดยที่ความเป็นสองเรายังเชื่อมติดกัน  ควบคุมสะโพกพายด้วยมือหยาบให้เองร่อนขึ้นลงกับแกนกายร้อนอย่างเสียวซ่าน ปกติเวลาที่ผมมีอะไรกับดี้ผมมักจะหลั่งนอกเสมอ แต่วันนี้ผมจะหลั่งในเพื่อต้องการปล่อยเชื้อทั้งหมดไปฝังตัวอยู่ในร่างกายของดี้ เพื่อรอการเติบโตของทารกน้อยที่ผมปรารถนาให้มันเกิดขึ้นอย่างใจจดจ่อ...

ดี้...

อ้ะ อื้อ ใจร้าย
เลิกร้องไห้สักนาทีมันจะตายไหม ดี้...

พี่สิงห์ นิสัยไม่ดีเลย ฮือ อ้า

ดี้เองก็ไม่นิสัยไม่ดี ไม่ต้องมาว่าพี่

พี่สิงห์คนบ้า พี่สิงห์ใจดำ  อื้อ ชอบเอาแต่ใจ

ดี้ชอบดื้อ...


ดี้ อื้อ อ้า ดี้ไม่ไหวแล้ว...


ทนอีกนิดนะดี้ อย่าตอดพี่แรงสิ...

พี่สิงห์

เด็กดื้อ

ดี้...อ้า



ผมผ่อนร่างของดี้ให้นอนราบกับฟูกนอนอีกครั้งเมื่อเจ้าตัวแตะขอบปุยเมฆไปเป็นที่เรียบร้อย เหลือก็เพียงแต่ผมที่ยังคงปวดหนึบและหวังจะปล่อยบรรดาเจ้าลูกชายใส่ตัวดี้ให้เต็มสูบ ทว่าในจังหวะที่กำลังจะสอดแกนกายร้อนเข้าร่องรักดี้อีกครั้ง กลับมีเสียงหนึ่งมาขัดความสุขเอาไว้อย่างทันท่วงที

cut กาสะลอง...06





วางร่างบอบบางของเด็กตัวน้อยที่กำลังปรือตาฉ่ำเยิ้มหมดคราบความพยศเนื่องจากโดนบทจูบสูบวิญญาณกระชากไปถึงหัวใจลงบนฟูกนอนอย่างแผ่วเบา ทั้งที่ก้านนิ้วแกร่งยังคงแทรกซึมในร่องรักให้ตอดรัดแรงถี่รัวอย่างไม่คิดชักออกตั้งแต่นอกชานเรือนจนเข้ามาถึงห้องนอน เรื่องแบบนี้พอได้เดินหน้าแล้วมันอยากที่จะหยุดจริงๆ ถึงจะห้ามหรือพยายามยับยั้งชั่งใจ แต่เพราะร่างกายนุ่มนิ่มที่เย้ายวนไปด้วยความหอมและบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นเด็กแรกเกิดเช่นนี้   

คุกก็คุกเถอะวะ อย่างน้อยมอมแมมก็เมียผม ถึงจะยังไม่บรรลุนิติภาวะก็ตามที แต่เรื่องเซ็กส์ ก็เป็นเรื่องธรรมดาของผัวเมียที่มันจะต้องมีอะไรกันอยู่แล้ว ไม่ว่าวันใดวันหนึ่งมันก็ต้องเกิดขึ้น 

พยายามหาเหตุและผลเข้าข้างตัวเต็มที่...
พร้อมด้วยถกเสื้อนอนขึ้นกองอยู่เหนือเนินอกขาวที่ยอดทุมถันกำลังเบ่งบานรอรับการสัมผัส เพียงเล้าโลมกระตุ้นด้วยเรียวลิ้นกับนิ้วที่บี้ลงไปมันก็เด้งดึ้งรับอย่างอัตโนมัติ ยิ่งเสียงครวญครางที่หลุดรอดออกมาอย่างเผลอไผลของมอมแมมด้วยแล้ว เห็นทีว่าการเมคเลิฟจะไม่หยุดอยู่เพียงนี้อย่างแน่นอน

เมื่อความพยศถูกแทนที่ด้วยการเล้าโลมอย่างช่ำชอง 

“อ้ะ อื้ม...”

ดูดดุนเม็ดถันหยอกล้อสลับตวัดลงลิ้นอย่างเมามันส์ พลางขยี้ขย้ำอย่างเพลิดเพลินซึ่งมันกำลังเดินทางไปพร้อมกับก้านนิ้วที่กำลังสวนกระแทกอยู่ตรงช่วงล่าง ทำให้ร่างของเด็กน้อยตัวแสบบิดกายเร่าๆเบียดกระแซะเข้าหาพร้อมทั้งแอ่นอกจนหลังไม่ติดฟูกนอน อาจเพราะสัญชาติญานและธรรมชาติมันกำลังช่วยสอนเขาให้เริ่มรู้สึกตอบรับ มอมแมมยังเด็กอยู่ก็จริง แต่ไม่ใช่เด็กจนไม่รู้ว่าเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นมันคืออะไร แม้จะไม่รู้ถึงการตั้งรับและตอบสนองให้ถึงใจเช่นไร ทว่าทุกอย่างที่เจ้าตัวกำลังแสดงออกมันจึงกลายเป็นความไร้เดียงสาที่แม้นการอ้อนขอจูบอย่างลืมตัวของเขา  ด้วยการแลบลิ้นออกมารออย่างเงอะงะ  แต่มันกลับทำให้ผมยิ่งรู้สึกว่าเขาเซ็กซี่ เซ็กซี่แบบอ่อนเดียงสา

“อ้ะ อ๊ะ อ้า ...”

ผมผละกายพร้อมด้วยการถอนก้านนิ้วออกจากช่องทางจนกายบางกระตุกเกร็งหลั่งน้ำรักไหลซึมเต็มตื้นไปทั่วช่องทางก่อนบางส่วนจะหยดลงบนฟูกนอน จัดการถอดเสื้อผ้าอาภรณ์ของมอมแมมให้หลุดพ้นจากร่างจนเหลือเพียงความเปลือยเปล่า และส่วนกลางลำตัวของผมที่บวมเป่งผงาดตั้งลำ อย่างมิอาจรั้งรอได้อีกต่อไป 

อารมณ์ที่กำลังพุ่งทะยานถึงขีดสุดกับความขาวผ่องของเมียเด็ก ระทดระทวย ลมหายสะท้อนห้วง เรียวปากบางบวมเจ่อเผยอขึ้นกับแววตากลมที่ปรือขึ้นอย่างฉ่ำเยิ้ม ทุกสิ่งทุกอย่างที่กอรปกันขึ้นในเวลานี้ มันกำลังกระตุ้นความดิบ ให้พลันต้องถอดเสื้อผ้าตัวเองออกด้วยอารามเร่งรีบ 

ไม่ปล่อยให้เด็กน้อยรอคอยเนิ่นนาน ผมก็เติมเต็มความหวามด้วยการชันขาเรียวขึ้น ก่อนจะลากริมฝีปากลงลิ้นกับพุงกะทิลงมาจนถึงกึ่งกลางลำตัว ความน่ารักมุมิของมันกำลังทำให้ผมหูอื้อตาลาย ปรนเปรอเพลิงปรารถนาลงไปด้วยความช่ำชอง 

ดูดแล้วเลีย เลียแล้วดูด จนน้ำสีขาวขุ่นไหลซึมออกมาเปรอะริมฝีปากก่อนจะลากปลายลิ้นให้เดาะลงตรงรอยจีบซึ่งกำลังเต้นตุบๆราวกับกำลังจะรอคอยตอดสิ่งแปลกปลอม



“อ้ะ อ้า อย่าเลีย...พอได้แล้ว เสียว อื้อ” 


ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ร้อนแรงดังไฟลามทุ่ง ไม่มีทางที่จะหยุดอารมณ์แห่งใคราลงได้โดยง่าย ยิ่งดีดดิ้นสะโพกผายจนไม่ติดฟูกนอน ผมยิ่งผลักเรียวขาขาวให้อ้าออกกว้างเพื่อการละเลงปลายลิ้นลงไปตรงรอยจีบของปากทางรักได้อย่างสะดวก เดาะลงล้อเล่นเพื่อเรียกความเสียวให้กับเด็กน้อย ก่อนจะตวัดน้ำสีขาวขุ่นเข้าสู่ริมฝีปากพร้อมร่างบอบบางที่กระตุกเกร็งกำมือกับฟูกนอนด้วยความแนบแน่นยามไปแตะขอบฟ้าในเวลาอันรวดเร็ว 

ถ้าให้คาดเดามอมแมมของผม คงเคยไม่ช่วยเหลือตัวเองอย่างแน่นอน เพราะแค่เพียงถูกผมเล้าโลมอย่างจริงๆจังๆ เจ้าตัวกลับพร้อมจะเสร็จได้ทุกเมื่อ 

ไอ้ครั้งก่อนที่โดนบีบไข่ผมก็แค่แกล้งออมมือ ขุดหลุมรอให้เด็กมันตกลงมา เพื่อที่จะได้สั่งสอนบทรักแต่ละบทเรียนให้กับเขาได้อย่างถึงใจที่สุด

ผมหอบหายใจสะท้านด้วยตัวเองยังไม่ถูกปลดปล่อย พลางทอดมองนิ้วเล็กที่แตะลงตรงน้ำสีขาวขุ่น ก่อนจะยกขึ้นมาถามผมด้วยความสงสัย ทั้งที่ดวงหน้ายังแดงก่ำไปด้วยพิษแห่งกามารมณ์


“น้ำอะไรไหล ฮือ ทำไมมันเหนียว” 


ใสซื่อเหลือเกิน คนเก่งของผม


“น้ำรักไงครับ เบบี้ของพี่ไค”

ตอบรับพร้อมจับเด็กน้อยให้นอนตะแคง ก่อนความอดทนที่สั่งสมมาเนิ่นนานจะหมดลง ด้วยการถูไถความแข็งแกร่งที่พองตัวใหญ่ไปกับร่องรักเปื้อนไปด้วยคราบน้ำคาวขุ่นและฉ่ำไปด้วยน้ำลายที่ยังพอหลงเหลืออยู่ ผมต้องการความเสียวซ่านที่ยังไม่สอดใส่แกนกายเข้าไปสู่ความนุ่มหยุ่น ด้วยว่าขนาดแค่ก้านนิ้ว มอมแมมยังงอแงและจะร้องไห้เอาเสียให้ได้ คืนนี้ผมเลยต้องการจะสอนการเมคเลิฟแค่เพียงทางด้านนอกเท่านั้น ด้วยการจับแกนกายของผมสอดถูลงไปตรงกลางร่องก้นของมอมแมมอย่างรุนแรง เพื่อการหลั่งนอกที่ใกล้จะเกิดขึ้น พลางสอดสองมือขยี้ขน้ำเนินอกอย่างมันส์มือ กับห้วงอารมณ์สุดท้ายที่ต้องการปลดปล่อย 


สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหารฉันใด

สงครามใต้สะดือก็ฉันนั้น


กระซิบเสียงพร่าเอ่ยถาม ในตอนที่รวบเอวบางเข้ามากระแทกอย่างถี่รัว 


“มอมแมมครับ หนูชอบไหม...”


“ชอบให้พี่สอนการบ้านหนูแบบนี้ไหม”

อยากจะเก็บทุกกลิ่นกายให้ฝังลึกในความทรงจำ หากต้องห่างกันผมจะได้จดจำความรู้สึกนี้เอาไว้ต่อเติมพลังใจ
 

“อ้ะ พอแล้ว หนูเสียว หนู อ้า” เผลอพูดจาน่ารักน่าชังด้วยความลืมตัว ตีมือไปมาบนร่างกายผมจนวุ่นไปหมดยามผมจับเข้าไปที่จุดศูนย์รวมของความรู้สึกอีกครั้ง พลันชักเข้าชักออก



“อยากให้พี่ทำอะไร...”

“อ๊า...”

“ดูดนม  จูบปาก...”


“หรืออยากจะอมไข่พี่บ้าง อื้ม”


นั่นคือคำถามสุดท้าย ก่อนผมจะนำพามือเล็กๆจับเข้ากับความใหญ่โต ไม่ได้เกรงกลัวว่าเจ้าตัวจะบีบให้พบกับความเจ็บปวดแต่อย่างใด เพราะตอนนี้ มอมแมมของผมก็เปรียบเหมือนแมวเชื่องตัวน้อยๆเท่านั้น



“อย่าเอาใส่ปากเรา อ้ะ อื้อม”

cut กาสะลอง...05



สิ้นสุดคำว่า ไม่ คือตอนที่เรียวลิ้นผมผลุบหายเข้าไปในโพรงปากเล็ก พลันสอดสำรวจกวาดต้อนหาความหวานฉ่ำที่มีอยู่จนทั่วทุกมุมอย่างคนหึกเหิมถือปืนพร้อมทำลายล้างข้าศึกยามออกรบ หากแต่ข้าศึกในเวลานี้มันช่างกลับตรงข้ามกันเหลือเกิน เมื่อร่างกายนุ่มนิ่มทอดอยู่ตัวข้างใต้ กำลังเต็มไปด้วยสั่นเทิ้มและสั่นสะท้านเพราะสัมผัสที่เกิดจากการเล้าโลม สองมือเล็กๆจิกกำอยู่บนฟูกที่นอนแน่น ยามริมฝีปากลากสำรวจผิวกายฟุ้งกลิ่นแป้ง หอมยิ่งกว่าดอกกาสะลอง 

ซุกไซร้ตั้งแต่ซอกคอหอมกรุ่น ก่อนจะลามเรื่อยลงมาถึงยอดอกสีหวาน เสื้อนอนคอย้วยที่ผมใช้มือดึงแต่เพียงนิด มันก็พร้อมตกไล่หล่นลงมาถึงข้อศอก เปิดเผยไหล่เปลือยต้องแสงแห่งดวงจันทร์ให้ยิ่งดูเซ็กซี่ ยิ่งน่าขบกัดทำรอยกุหลาบไปเสียทุกสัดส่วน

ภายนอกของมอมแมมอาจจะดูผอมบางดังเด่นเริ่มเข้าย่างสู่วัยรุ่นทั่วไป หากแต่ยามสัมผัสแล้วนั้น ผิวกายที่อวบอัดแน่นไปด้วยความนุ่มนิ่มและสุขมือทุกครั้งยามลูบไล้เหลือเกิน 

ผมยิ้มใส่ดวงตากลมที่ไหวระริก ทอประกายเคลือบแววแห่งความไร้เดียงสา อาจจะเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว อาจจะเพราะง่วงนอน  หรือจะเพราะเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ถึงได้ทำให้เด็กน้อยที่เคยแสนพยศนอนแนบนิ่งหายใจผะแผ่วรวยริน ไม่คิดต่อกรหรือขัดขืนลุกขึ้นมาบีบไข่ผมดังเฉกเช่นคืนนั้น 


“ไม่บีบไข่พี่แล้วหรือครับ...” เอ่ยเย้าอย่างไม่ต้องการรอคอยคำตอบ พาริมฝีปากก้มดูดยอดถันเม็ดกระจุ๋มกระจิ๋มของเด็กวัยสิบห้าขวบที่มันเต่งตึงคัดแข็งเชิญชวนดังดอกบัวตูมในบึงใหญ่ ที่เฝ้ารอให้ใครสักคนว่ายน้ำเข้าไปหาเพื่อเชยชมความบริสุทธิ์และผุดผ่อง และคนๆนั้นมันก็คือผมคนนี้

“อ้ะ อ้ะ...” แตะสะกิดปลายลิ้นหยอกล้อกับเม็ดทับทิม ยิ่งยามได้ยินเสียงนุ่มครางเครือผสานร่างกายบิดเร่าเข้ากระแซะเข้าหามันกลับยิ่งทำให้ผมได้ใจ พลางส่งฝ่ามืออีกฟากขยี้ขย้ำเนินอกข้างที่ว่างอย่างไม่ให้น้อยหน้ากัน อารมณ์กำหนัดของคนที่ไม่ได้มีเซ็กส์มาเป็นเวลาเนิ่นนานจนแทบจำไม่ได้ มันกลับพลันจุดติดง่ายยามที่มีเนื้อกระต่ายรสหวานมารอให้ฉีกกินอยู่ตรงหน้า

แต่ทว่า

“ชอบให้พี่กินนมหนูเหรอครับ หืม”

“ไม่เอา อื้อ...” 

“ไม่ ฮือ ไม่ดูดนม มันเจ็บ...”

ปฏิเสธแต่แอ่นกายขึ้นรับ ราวกับเชื้อเชิญกันเสียอย่างนั้น มันเป็นอากัปกริยาที่ไร้เดียงสาต่างจากคืนนั้นโดยสิ้นเชิง ไร้เดียงสาจนผมรู้สึกสงสารขึ้นมาเสียอย่างนั้น ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีมันกลับแล่นเข้ามาฉุดกระชากจำให้ต้องหยุดทุกการกระทำลง ทั้งที่ความปวดหนึบกลางลำตัวเริ่มเต้นเร้าๆ อย่างต้องการ การปลดปล่อย เสียงนุ่มเอาแต่ร้องครางพลางประท้วงว่าเจ็บ ทั้งที่ผมเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น หากดำเนินไปจนสุดปลาย มีหวังมอมแมมได้ร้องลั่นบ้านปลุกเจ้าคุณปู่ขึ้นมาจ้ำบ๊ะแน่ๆ 

และที่สำคัญ ผมกลัวปากทางรักของเด็กน้อยจะฉีกขาดเมื่อเทียบกับเจ้ามังกรหัวปืนใหญ่ของผมที่พร้อมยิงทุกอย่างให้กระจุย 

เอาไว้รอให้มอมแมมพร้อมมากกว่านี้ ก็คงยังไม่สายกับเรื่องอย่างส่ากระมัง

สุดท้ายผมกลับผละกายถอยห่างด้วยทำใจทำร้ายเด็กน้อยตรงหน้าไม่ลง ทิ้งตัวลงนอนข้างกายด้วยลมหายใจรุนแรงสะท้อนห้วงดังต้องการระงับและอดกลั้นความต้องการลง ก่อนจะรั้งร่างบอบบางที่ก็หอบเหนื่อยไม่ต่างกันให้นอนมาเกยอยู่ตรงแนบอก ลูบศีรษะกลมน้อยๆอย่างปลอบประโลม 


หากแต่ก็...