วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2560

cut อุบัติรักแบคโด้...16

“อ้ะ อื้อ” ผมหยุดทุกคำพูดของน้อง ด้วยรอยจูบจูบกลีบปากอวบอิ่มแสนนุ่มนวล ค่อยๆเริ่มจากความเบาบางก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความรุ่มร้อนตามห้วงอารมณ์ที่สะสมมาเนิ่นนาน สองฝ่ามือพลันบีบเค้นไปตามผิวกายนุ่มลื่นด้วยความย่ามใจ ในขณะที่ริมฝีปากก็ทำหน้าที่ได้อย่างช่ำชองไม่มีขาดตกบกพร่อง เคลื่อนสำรวจความหอมหวานไปจนทั่ว ราวกับเข็มทิศที่เดินทางตามดวงดาวจนกว่าจะสุดปลายขอบฟ้าฝั่งฝัน 

ปล่อยเรียวลิ้นสำรวจจากกลีบปากอิ่มลามเรื่อยไปทั่วดวงหน้าหวาน ก่อนจะลากลงต่ำมาตามซอกคอระหงที่ขาวผ่องยั่วยวนดุจใยไหม ยากที่จะหยุด หรือต่อให้ช้างทั้งโขลงมาฉุด ผมก็เห็นว่าจะยอมไม่ได้ ยิ่งยามมองเห็นร่างบอบบางอ่อนระทวยส่งเสียงครวญครางผะแผ่ว มันกลับยิ่งเติมเชื้อไฟแห่งราคะให้ยิ่งลุกโชน โหมกระพือม้วนตัวกลายเป็นเกลียวสวาท

เมื่อเริ่มเรียนรู้กันด้วยหัวใจ ผ่านถ้อยวาจา ผ่านวันเวลา แห่งสุขและทุกข์ ก่อนจะลงเอยด้วยภาษาของร่างกาย

หากบทเพลงที่ส่งผ่านยังคงไม่เพียงพอต่อคำขอโทษ ผมจะของ้อดีด้วยลีลาแห่งรัก  บทรักที่จะเคล้าคลอท่วงทำนองยิ่งกว่าดนตรีขับขาน เสียวซ่าย ซาบซ่า และแสนตาตรึงร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว

เมื่อไม่ขัดขืน และคล้ายจะสมยอม เพราะติดอยู่ในบ่วงแห่งห้วงอารมณ์ใคร่หรืออย่างไรกัน ถึงได้แต่ยั่วยวนอย่างเผลอไผลด้วยการบดเบียดร่างกายเข้าหาให้แนบชิด ปรือปรอยดวงตากลมโตจนฉ่ำเยิ้ม ไหนจะเรียวปากที่เอาแต่ครวญครางเพรียกชื่อผม เผยอขึ้นลงด้วยหอบเอาออกซิเจน 

“อ้ะ พี่สิงห์...” 

ลูบไล้ดวงหน้าหวานด้วยฝ่ามือ ก่อนจะแทนที่ด้วยเรียวลิ้นอย่างหลงใหล บางครั้งก็หยอกเอินสอดเข้าไปในใบหูเล็กก่อนจะเดาะไปมาให้รู้สึก จนคนต่างร่างต้องจิกมือลงกับท่อนแขนแกร่งผมอย่างแรง เพื่อหวังระบายอารมณ์ที่เริ่มพุ่งพล่าน

เชื่อเถอะว่าคืนนี้มันจะไม่จบแค่จูบเหมือนที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

“พี่ขอนะครับ”

พลางเอ่ยกระซิบถ้อยคำกระเส่าโดย ไม่รั้งรอให้อีกฝ่ายเอ่ยคำอนุญาต พลันถดกายลงให้เสมอกับช่วงหน้าอก ก่อนจะใช้เรียวลิ้นสากตวัดลงกับยอดถันอย่างทันที ราวกับคนใจร้อนที่สะกดคำว่ารอไม่เป็น ทั้งดูดทั้งขบกัด ทั้งฟ้อนเฟ้น ทั้งขยี้ขย้ำอย่างเพลินปากและเพลินมือผ่านเสื้อเนื้อบางที่เวลานี้มันกำลังชุ่มไปด้วยน้ำลาย แล้วเพียงไม่นานยอดถันแสนนุ่มชูชันดุนดันผ่านเนื้อผ่านอย่างเชิญชวนให้ดูดซ้ำ หากแต่ผมใช้เพียงปลายนิ้วสะกิดเพื่อเรียกความเสียวซ่านจนดี้เอาแต่แอ่นหน้าอกเข้าหา หลับดวงตาแน่นพร้อมกับเรียวปากบวมเจ่อที่เผยอหอบใจขึ้นอย่างระทดระทวย ยิ่งมองก็ยิ่งหลงใหล ยิ่งอยากตีตราเป็นเจ้าของไปให้ทั้งทุกตารางนิ้วของผิวกาย

ร่างกายบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ไม่คอยต้องชายใด ในยามนี้กำลังตกอยู่ในอาณัติของผม ตกอยู่ในการปกครองที่ไม่ว่าจะชักนำไปทิศทางใด อีกฝ่ายก็พร้อมจะทำตามฤทธิ์แห่งพิศวาสที่ครอบงำ 

“พี่สิงห์ อ้ะ อ้า”
“พี่ต้องการดี้”
“อื้อ พี่สิงห์...”

ลากลิ้นเรื่อยลงต่ำ เลียวนไปรอบหลุมสะดือก่อนจะใช้สองมือปลดเปลื้องอาภรณ์ทั้งช่วงบนและช่วงล่างของดี้ออกให้พ้นทาง เพื่อปรากฏร่างเปลื่อยเปล่าสู่สายตา ที่ไม่อาจหักห้ามหัวใจไม่ให้เต้นแรงไปกับความงดงามเรือนกายของน้องได้ หากแต่ก็ต้องไม่ลืมว่ากายของน้องกำลังเจ็บปวดด้วยบาดแผล สิ่งใดที่พอระวังได้ผมก็จะพยายามหักห้าม

ขาวผ่อง บริสุทธิ์หากกลับยั่วยวนในที
อยากจะกลืนกินไปทั้งตัว ไม่อยากหลงเหลือไว้ให้ใครได้กลิ่น ราวกับบุปผางามแห่งกลางผืนป่าใหญ่ ที่ไม่อยากให้ใครได้แลเห็น นอกจากเพียงผมคนเดียวเท่านั้น

เป็นของผมคนเดียวเท่านั้น

“พี่สิงห์ อ้ะ ยะ อย่า” 

เสียงเอ่ยห้ามมันคงไม่ทันเสียแล้ว เมื่อตอนนี้กางเกงตัวนอกมันได้หลุดลอยออกจากเรียวขางาม หลงเหลือไว้เพียงชั้นในสีหวานที่ถูกถอดค้างเติ่งไว้ตรงข้อขาเล็ก เพื่อเปิดให้เห็นสิ่งหวงแหนที่กำลังเต่งไปด้วยหยาดน้ำไหลซึม บ่งบอกถึงว่าการเล้าโลมเริ่มใกล้ถึงจะเดือด

ผมไล่จูบตั้งแต่ปลายนิ้วเท้าของน้องลามเรื่อยขึ้นมาจนถึงหัวเข่ากลมสีชมพู เรื่อยขึ้นไปซอกขาด้านใน ทั้งดูด ทั้งขบ ทั้งกัด ทิ้งรอยรักกุหลาบไว้จนทั่วอย่างเพลิดเพลินฟันและลิ้น 

“พี่สิงห์ อ้ะ อ้า พอแล้ว ฮือ ดี้อาย”

ไม่อารามสนใจถึงเสียงร้องห้ามหรือการพลิกกายหนีของน้อง  กลับยิ่งชันเรียวขาให้ตั้งขึ้น ก่อนจะใช้ปากเล่นกับสิ่งหวงแหนด้วยการอมของน้องจนมิด หยอกให้พอรู้สึก เล่นกับมันอยู่อย่างนั้นจนร่างกายของดี้บิดเร่าๆ ราวกับจะทานทนไม่ไหว

“อ๊ะ อ้า อ้า อื้ม พี่สิงห์ ดี้ เสียว อ้ะ” 

“อ้ะ พี่สิงห์ อื้อ พอ พอได้ไหม อ้า ดี้”

ยิ่งส่งเสียงครางลั่นห้องอย่างยากที่จะหยุดเข้าไปใหญ่ ยามที่ผมผละจากสิ่งหวงแหน เพื่อเปลี่ยนเป้าหมายเป็นถ้ำสวรรค์ ส่งลงลิ้นกับร่องรักอย่างเมามันส์ หยอกล้อด้วยการดันเข้าดันออก เดาะลิ้นลงกับความนุ่มนิ่มบ้าง จนมันฉ่ำแฉะทั้งน้ำลายและน้ำสีขาวคาวขุ่น 

ปากทางสวาทเต้นตุบๆ ราวกับเรียกร้องหาสิ่งเติมเต็ม และผมก็ไม่อาจรอช้าด้วยการเล้าโลมได้อีกต่อไป

“เป็นเมียพี่นะครับ ดี้”

“อ้ะ อื้อ”

“พี่ทนไม่ไหวแล้ว”

“ร่องรักของหนูมันต้องการพี่”

ผละกายถอยห่างเพียงนิด เพื่อปลดอาภรณ์ทุกชิ้นบนร่างกายทิ้ง ก่อนจะนาบกายกำยำลงแนบร่างระทดระทวย จับร่างน้องนอนพลิกตะแคงหันข้างเพื่อให้บาดแผลอยู่ทางด้านบนและระมัดระวังที่จะไม่โดนมากที่สุด พลางคว้า ท่อนกายที่แข็งขืนถูไปกับร่องรักที่ฉ่ำแฉะด้วยน้ำคาว มืออีกข้างก็พลันฟ้อนเฟ้นหน้าอกอวบไปตามแรงอารมณ์

“ดี้ครับ อื้อม” เพียงยังไม่สอดใส่ ยังเสียวได้ขนาดนี้ กัดฟันกับความซ่านจนเส้นตามร่างกายปูดโปน

“อ้ะ อ้า อื้อ”

“เสียวไหมครับคนดี” ผมยังคงจับท่อนกายถูไถเล่นกับร่องสวาทที่แฉะไปด้วยความต้องการ อารมณ์ที่พุ่งพล่านกำลังพาให้ผมพูดจาลามก เพื่อสร้างบรรยากาศระหว่างเราให้ยิ่งสยิว

เราโตพอที่จะมีเซ็กส์ เซ็กส์ที่มาจากความรัก หาใช่เพียงความใคร่ไม่

“อยากให้พี่กระแทกหนูแรงๆไหม”

“อ้ะ อ้ะ อ้ะ อ้า พี่สิงห์ ดี้”

“อยากเสียวกว่านี้ไหมครับ เด็กดี”

“อ้ะ อื้อ อ้ะ อ้า ฮือ ดี้อาย”

“พี่อยากเอาดี้ พี่ต้องการหนู”

“พี่สิงห์ อ้ะ อื้อ ดี้เจ็บ”

“พี่สิงห์รักดี้นะครับ รักมากที่สุด”

“ดี้ อึก ก เจ็บ ของพี่สิงห์ใหญ่ อ้ะ ฮือ”





ยิ่งเป็นแผล ยิ่งต้องรักษาด้วยการฉีดยา

วันเสาร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2560

cut กาสะลอง...11



“งือ ไอ้ผู้กองน่ารัก อ้ะ อื้อ”

อาจเป็นเพราะความคิดถึงที่สั่งให้หัวใจทำตามความรู้สึก ปลายลิ้นที่ช่ำชองกับสองมือที่เฝ้าฟ้อนเฟ้นผิวกายเนียนนุ่มของเด็กสิบห้าขวบที่นอนเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์อยู่ห่าง เคล้นคลึงสองเต้างามที่ยอดถันชูชันรับสัมผัว ก่อนจะกระหวัดลิ้นดูดดุนราวกับหิวโหยมาช้านาน ยิ่งได้เสียงอ่อนนุ่มครวญครางคล้ายบทเพลงบรรเลงคลอไปด้วยแล้วนั้น ความกำหนัดมันก็อยากที่จะหยุดลง พอๆกับไฟราคะที่เริ่มโหมกระพือขึ้น 

“อ้ะ อื้อ...” 

ลงลิ้นกับยอดถันจนพอใจ ก็จะวกขึ้นไปจูบซับความนุ่มหยุ่นของเรียวปาก ลากไล้ระเรื่อยลามลงมาซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่นกลิ่นแป้งเด็ก ขบกัดลงไปเพียงแผ่วเบาหวังทิ้งร่องรอยให้พอขึ้นสี  ลากปลายลิ้นผิวเนียนนุ่มนิ่มราวกับเด็กแรกเกิดไปทั้งทุกตารางนิ้วอย่างไม่มีเว้น ยามเห็นเด็กน้อยบิดเร้าร่างกาย เพราะความเสียวซ่าน ผมเองก็ยิ่งได้ใจ 

เดินเครื่องความร้อนเต็มที่ กับความรู้สึกอึดอัดกลางลำตัวที่มันไม่ได้ปลดปล่อยมาช้านาน สองมือที่เฝ้าขย้ำเฟ้นสะโพกอวบก่อนจะกรีดก้านนิ้วไปตามร่องกันที่มีน้ำหล่อลื่นไหลมาเปียกซึมหากก็ยังไม่พอกับกิจกรรมที่ต้องดำเนินต่อ ลากปลายลิ้นจากหลุมสะดือ ลงมาถึงกลางลำตัวเพื่อเปลี่ยนเป้าหมาย ตรงปากทางรักที่เต้นตุบเร้าๆทั้งยังขมิบเข้าออกคล้ายกำลังส่วนเติมเต็ม 

“อ้ะ อ๊า ไอ้ผู้กองเสียว งือ”

เลียร่องรักด้วยลิ้นที่เปียกชุ่ม ตวัดลงอย่างระรัว แทงเข้า แทงออกรับรู้ถึงผนังด้านในที่ตอดรับเป็นอย่างดี  ยามได้เสียงครวญครางขับเคลื่อนกับสะโพกกลมมนขาวโพลนที่พยายามบดเบียดเข้าหา แม้จะสั่นเทาอยู่ในที หากแต่ก็ยังสู้ไม่ถอย และในตอนนั้นเองที่ร่างกายของผมมันปวดหนึบ เรียกร้องต้องการอยากปลดปล่อยอย่างสุดกำลัง หากจะให้กลั้นใจทำร้ายเด็กน้อยที่นอนดิ้นเร่าๆเพราะความเสียงผมเองก็ทำไม่ลง ทางรักของมอมแมมช่างเล็กนักเมื่อต้องเทียบกับปืนใหญ่ ขืนทิ่มพรวดเข้าไปมีหวัง จอมแสบของผมร้องลั่นชนิดที่ว่าแคมป์ทหารต้องแตกแน่ๆ ไอ้ครั้นจะปล่อยเลยแล้วหยุดลงกลางคัน อย่างเช่นที่ผ่านมา ผมเองก็ทนไม่ไหว ก็ดูเอาเถอะใครสั่งใครสอน ให้มอมแมมหายใจระทดระทวย นอนอ้าขา เปิดเผยทางรักที่ชุ่มไปทั้งน้ำเหมือกและน้ำลายของผม ไหนจะยังเก่งขึ้นด้วยการนอนดูดนิ้วชี้ตัวเอง ดูดดังจ๊วบๆ ไหนจะแววตากลมที่ปรือปรอยอย่างหวานซึ้ง ยอดถันก็ชูชันเต่งตูม ร่องจ้ำเพราะเกิดจากการขบกัดก็กระจายเต็มร่างกายขาวโพลน หากผมถอยตอนนี้มันก็คงไม่ทันแล้วใช่ไหม 

ในเมื่อใจมันเรียกร้องอยากสัมผัสใครอีกคนมากจนไม่สามารถทนความกำหนัดเอาไว้ได้อีกต่อไป ผละกายออกเพียงนิดเพื่อจัดการกับเสื้อผ้าอาภรณ์ตัวเองจนเปลือยเปล่าไม่ต่างกัน 

ก่อนจะพาตัวเองลงแนบกายเคียงข้างเด็กน้อยที่เต็มตื้นไปด้วยอารมณ์ใคร่อีกครั้ง จัดการดูดปาก ดูดนม ขบกัดผิวกายด้วยความหิวกระหาย ยากเกินจะหักห้าม

“อ้ะ อื้อ อ้ะ เสียว” 

ผมหยัดกายลุกขึ้นนั่ง พลันคว้าร่างเด็กน้อยที่ระทดระทวยไปพิษแห่งความใคร่ขึ้นนั่งตาม เพราะคืนนี้ผมจะสอนบทเรียนรักให้กับมอมแมมบทใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมเพิ่งคิดได้สดๆร้อนๆในตอนที่เห็นใครอีกคนดูดนิ้วชี้ตัวเอง ด้วไม่เคยคิดให้เขาอยากทำ แต่ถ้าเป็นการเพิ่มรสชาติในเซ็กส์ ผมก็ว่ามันไม่เลวเท่าไหร่

“ไอ้ผู้กอง อยากให้ดูดนมอีก...”
เด็กน้อยงอแง พร้อมทั้งแอ่นหน้าอกเข้าหา ด้วยความคัดยอกถัน ผมประคองดวงหน้าเห่อแดงไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ก่อนที่อีกข้างจะกอบกุมมือเล็กของมอมแมมเอาไว้ให้มันมาแตะลงตรงกึ่งกลางลำตัวของผม ที่กำลังผงาดพร้อมออกศึกและแข็งเหมือนแท่งไอติอัดแช่แข็งแบบติดลบหลายองศา ตรงปลายเริ่มมีน้ำไหลซึม เพียงแค่มือของเด็กอายุสิบห้าขวบแตะลงไป ใจมันสั่น รู้ว่าตัวเองเป็นคนหื่นกามมากเพียงใด ก็เมื่อตอนที่รู้สึกอยากให้มอมแมมอมมันเข้าไปทั้งดุ้น อยากไปผองขยายและแตกใส่เรียวปากจิ้มลิ้มคู่นั้น

“เล่นกับน้องชายพี่หน่อยนะครับมอมแมม...อึ้ม” จับมือเด็กน้อยสาวขึ้นลงตามการชักนำ มันซาบซ่านใสชนิดที่ว่าพูดไม่ออก ตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนออกรบครั้งแรก และหน้าหวาดเสียวยิ่งกว่าตอนฝึกกระโดดลงตากหน้าผาหลายชั้น

“ทำไมของ ไอ้ผู้กองมันใหญ่จัง...” ลูบหัวเด็กน้อยด้วยความเอ็นดูกับคำถามแสนร้ายเดียงสาที่เอ่ยขึ้น พลางก้มลงไปหอมแก้มนุ่มแล้วกระซิบที่ข้างกกหูเล็ก

“แล้วหนูชอบไหมครับ...”

“อื้อ ถามบ้าอะไรเล่า...”

“หนูอยากกินมันไหม มันดูดได้ เลียได้นะ”

“หือ มันกินได้ด้วยเหรอ...” เด็กน้อยกำลังจะติดกับ อยากหัวเราะกับแววตากลมใสซื่อของมอมแมมเหลือเกิน ทำไมถึงน่ารักกับหัวใจผมได้ขนาดนี้ 

“ครับ อร่อยยิ่งกว่าไอติมด้วย อยากลองไหม”

มันจะดีกว่านี้ และเซ็กส์ของเราก็อาจจะราบรื่นไปจนถึงตอนจบ ถ้ามอมแมมจอมแสบไม่เอ่ยประโยคที่ทำให้ผมถึงกลับต้องกุมขมับชนิดที่ว่า อยากเอาเชือกมาผูกคอตัวเอง

“เราอยากลอง จะได้เอาไปเล่าให้มินซอกฟังว่าเราได้กินไอติมของไอ้ผู้กองด้วย ทั้งดูด ทั้งเลีย งือ...”

“มอมแมมคร้าบบบบบ”

โอ๊ย หรรมที่ว่าเคยแข็งตอนนี้มันหดและอ่อนตัวลงอย่างทันที อยากจะกรี๊ดจริงๆเลยโว๊ย

“งือ จะให้เลียได้ยัง อยากเลียแล้ว จะเลีย จะเลีย...”

กลายเป็นว่าเมียเด็กของผมเห็น ปืนใหญ่อันทรงคุณค่าเป็นเพียงของเล่น ของกิน ที่เจ้าตัวเห็นเป็นเรื่องสนุกอยากเอาไปเล่าให้เพื่อนเท่านั้

“ไอ้ผู้กอง จะเลียอ่ะ...”

“เมียคร้าบเมีย ถ้าเลียต้องสัญญากับพี่ก่อนว่าห้ามไปเล่าให้เพื่อนฟัง”

“จะเล่า จะเล่าให้หมดเลย ว่าไอ้ผู้กองเลียตูดเราด้วย งือ นอกจากกินนมแล้วยังจะกินตูดเราอีก ...”


เวรกรรมของผมจริงๆ


ชาตินี้ผมคงไม่ได้เป่าพุงมอมแมมให้เป็นลูกโป่งโตได้แน่

วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2560

cut ฉะตอเบอรี่...02






และยังไม่ทันทีที่ผมจะได้ตั้งตัวเรียบเรียงประโยคของน้องอย่างพยายามจับใจความเสียใหม่ พลางเรียวปากนุ่มหยุ่มละมุนละๆ ไม่ต่างจากเยลลี่ก็เป็นฝ่ายยื่นมาแตะผมเอง บอกได้เลยว่าในวินาทีนั้นความอดทนของผมมันได้หมดลง

ถ้าผมเป็นแมวน้องก็คงเป็นปลาย่างที่อร่อยและนุ่มลิ้นที่สุด 

“อื้อ...” ประคองดวงหน้าเพื่อปรับองศาให้จูบน้องได้อย่างถนัด สอดปลายลิ้นเข้าชิ้มกวาดต้อนหาความจนถั่วโพรงปากจิ้มลิ้มก่อนจะเกี่ยวกวัดพันหยอกล้อ และด้วยความไม่ประสาของน้องที่เอาแต่พาลิ้นถอยหนี หากแต่กลับยิ่งเป็นการสร้างอารมณ์ให้ยิ่งปั่นป่วนและปลุกปั่นให้มันทวีคูณความยากใคร่เข้าไปอีก 

ยามร่างแน่งน้อยดิ้นรนบิดเร้าไปมาราวกับต้องการอากาศเพื่อหายใจ ผมจึงตัดสินใจผละถอยจากเรียวปากแสนนุ่มด้วยความเสียดาย ทอดมองดวงหน้าหวานล้ำที่เห่อแดงไปด้วยพิษของความใคร่แล้วก็ให้ยิ่งมีอารมณ์ พอๆกับความสงสาร ไม่รู้ประวีประสาอะไรเลย หอบโกยเอาอากาศเข้าปอดจนพอใจ ยังมีแก่ใจจะถามไถ่ผมอีกว่า

“พี่ไคจะกินปากน้องงุนอีกไหม น้องงุนง่วงนอนแล้ว...” มาเล่นทำให้ผมตื่นไปทั้งตัวแบบนี้แล้วจะมาหนีไปนอนกันง่ายๆบอกเลยว่ายาก

จัดการดันตัวน้องขึ้นให้หนุนหมอนอย่างดิบดี ก่อนจะก้มลงจูบปากนิ่มอีกครั้งด้วยความอ้อยอิ่ง ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อน และแสนบางเบาราวขนนก ยามสาแก่ใจแล้วก็พาปลายจมูกซักไซร้ซอกคอขาวระหงหอมกรุ่น ก่อนจะลามาระเรื่อยมาจนถึงยอดอกที่ยังมีเสื้อผ้าอาภรณ์ปิดเอาไว้อย่างมิดชิด ได้ยินเสียงน้องหัวเราะคิกคัก บอกว่าจั๊กจี้อย่างนั้น จั๊กจี้อย่างนี้ หอมคอหนู เอาหนวดตำอีก น้องงุนชอบ 

หึ้มมมม...

“พี่ไคหิวนม ขอพี่ไคกินนมน้องฮุนได้ไหมครับ”

“แต่นมน้องฮุนไม่ใช่นมโรงเรียน พี่ไคจะเอาหลอดจากไหนมาเจาะดูดครับ...”

คำพูดไร้เดียงสากำลังจะทำให้ผมหลุดขำ หากด้วยว่าอารมณ์ใคร่ที่ครอบงำมันมีมากกว่า ผมจึงเลือกที่จะถกเสื้อนอนของน้องขึ้นเพื่อเผยให้เห็นเม็ดถันงามที่มันปรากฏแก่สายตาคม และช่างล่อใจผมยิ่งนัก

เม็ดฝักบัวอ่อน อยากรู้ว่ายามต้องลิ้นจะชูชันแข็งสู้มากแค่ไหน


ต่อไม่มีหลอด ผมก็สามารถที่จะเจาะและดูดนมน้องได้ ด้วยการใช้ริมฝีปากเข้าครอบ

“อ้ะ พี่ไค อื้อ...”


“พี่เป็นคนกินนมอิ่มยากนะครับ งุนงุน”


“อ้ะ...”